หยุดจาม - 绮罗网

วิธีการ หยุดจาม

3 วิธีการ:การหยุดอาการกำลังจะจามจามให้น้อยลงมีนิสัยการจามที่ดี

การจามเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกาย ในหลายๆ วัฒนธรรมนั้นถือว่าไม่ค่อยดีในแง่มารยาททางสังคม โดยเฉพาะถ้าไม่มีทิชชู่พกไว้อยู่ด้วยน่ะนะ ถึงอย่างนั้น ใครหลายๆ คนก็อยากจะหยุดจามด้วยเหตุผลมากมายต่างกันไป รวมไปถึงผู้ที่ได้รับรางวัลกินเนสบุคที่จามติดต่อกัน 977 วัน และจามอีกไม่รู้ปาไปตั้งเท่าไรแล้ว

1
การหยุดอาการกำลังจะจาม

  1. 1
    บีบจมูก. จับส่วนใกล้ๆ ปลายจมูกและดึงเหมือนกับว่าจะดึงจมูกออกจากใบหน้า ไม่ต้องดึงถึงขั้นเจ็บ แต่ให้ยืดกระดูกอ่อนออกมาเพื่อยั้งการจามเอาไว้
  2. 2
    เป่าจมูก. ใช้ทิชชู่ปิดแล้วเป่าจมูกเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะจาม มันจะช่วยทำให้โพรงจมูกโล่ง ซึ่งเป็นส่วนของสาเหตุที่ทำให้จะเกิดอาการจาม
  3. 3
    หยิกริมฝีปากบน. ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้หยิกเบาๆ ที่ริมฝีปากบนแล้วกดขึ้นไปทิศเดียวกับทางรูจมูก นิ้วโป้งของคุณควรหันไปทางรูจมูกด้านหนึ่ง และนิ้วชี้ก็หันไปอีกด้านหนึ่ง ดันริมฝีปากบนขึ้นเบาๆ
  4. 4
    ใช้ลิ้น. กดลิ้นไว้หลังฟันหน้าสองซี่ ที่เพดานปากชิดกับปุ่มเหงือกนั่นเอง ออกแรงกดด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดจนกว่าความรู้สึกจั๊กจี้จะหายไป
  5. 5
    หยุด แลบลิ้น และรอ. หาโต๊ะเล็กๆ ในบ้าน แล้วยื่นหน้าก้มบนโต๊ะโดยให้ห่างขึ้นมา 1 นิ้ว (2.5 ซม.) จากบนโต๊ะ และแลบลิ้นออกมา แล้วอาการจามจะหายไปโดยธรรมชาติ อาจต้องใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 7 วินาที อย่างน้อยถ้ามันไม่ได้ผล คนรอบข้างที่มาเห็นก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจและตลกอยู่ดีนั่นแหละ!
  6. 6
    เขี่ย. เขี่ยเพดานปากด้วยปลายลิ้น เมื่อคุณรู้สึกเหมือนจะจาม โดยทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าความรู้สึกจะจามหายไป ใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 10 วินาที
  7. 7
    ยั้งการจามด้วยมือของคุณ. ยื่นนิ้วโป้งของมือใดมือหนึ่งไปคนละทางกับนิ้วที่เหลือ ใช้มุมคมๆ ของเล็บหัวแม่โป้งและนิ้วชี้จากอีกมือที่เหลือ หยิกตรงหนังพังผืดระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วที่เหลือของมืออีกข้าง
  8. 8
    บีบจุดที่อยู่ระหว่างคิ้ว. มันเป็นจุดที่เอาไว้บีบเพื่อหยุดอาการปวดหัว โดยได้ผลกับอาการจามด้วยเช่นกัน ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้หยิกบริเวณระหว่างหัวคิ้วทั้งสองคนกว่าจะรู้สึกถึงแรงกดดันจำนวนมาก
  9. 9
    หยิกใต้จมูก. ใช้ด้านข้างของนิ้วคุณ (วางมือเป็นแนวนอนใต้ดวงตาของคุณ) กดตรงกระดูกอ่อนบนจมูกคุณ แค่ใต้กระดูกสันจมูกของคุณนั่นแหละ มันจะไปหยิกตรงเส้นประสาทที่ทำให้เราจาม
  10. 10
    กดเบาๆ ตรงใบหู. เขี่ยใบหูเบาๆ เมื่อคุณรู้สึกว่าจะจาม มันจะดูเหมือนว่าคุณแค่เล่นเขี่ยตุ้มหูที่ใส่อยู่เฉยๆ เมื่อจะยั้งการจามในที่สาธารณะ
  11. 11
    ถ้าคุณเห็นใครบางคนกำลังจะจาม หรือพูดว่ารู้สึกกำลังจะจาม ให้พูดอะไรไร้สาระออกมา บางครั้งสมองก็จะ’ลืม’ว่าจะจามไปเอง
  12. 12
    ทำเป็นโมโห. กัดฟันเข้าด้วยกัน แต่ให้ใช้ลิ้นด้วย (ใช้กล้ามเนื้อลิ้นดันด้านหลังของฟันหน้า) ดันกดให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้! การกระตุ้นนี้จะทำให้การที่จะจามได้หยุดลงไป
  13. 13
    ใช้เมล็ดยี่หร่าดำ (เทียนดำ). คุณสามารถหาซื้อทางออนไลน์หรือตามร้านที่ขายของสมุนไพรแถวบ้าน หยิบมากำมือหนึ่งแล้วห่อด้วยผ้า อย่างผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น จากนั้นห่อเอาไว้ในมือแล้วกำให้แตกเล็กน้อย ถือกุมไว้ใกล้ๆ จมูกแล้วหายใจเข้าเล็กน้อย แล้วอาการจามของคุณก็จะหายไปเลยล่ะ!

2
จามให้น้อยลง

  1. 1
    เตรียมตัวรักษาสุขอนามัยของตัวเอง. ใช่แล้ว สุขอนามัย มีการยืนยันทางการแพทย์แล้วว่าการที่คุณไม่สามารถหยุดจามได้เพราะกระเพาะของคุณแน่นไปด้วยอาหาร น่ะสิ มันจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่รับประทานอาหารมื้อใหญ่เข้าไป ฉะนั้นจะหลีกเลี่ยงมันได้อย่างไรล่ะ? ก็อย่ากินเยอะเกินไปไง
    • ถ้าหากว่าคุณสงสัยเกี่ยวกับคำว่า George ล่ะก็ มันเป็นตัวย่อน่ะ มาจากการจามที่ไม่สามารถควบคุมได้ในช่วงของความอิ่ม เป็นลักษณะที่สืบทอดได้และได้รับการตั้งเป็นชื่อ เดิมทีมันคือคำผสมระหว่างคำว่าจามกับและความอิ่ม[1] คราวนี้คุณก็รู้แล้วว่าต้องมาดูพฤติกรรมการรับประทานของคุณ เมื่อไรกันที่คุณมักจะจามบ่อยๆ ล่ะ?
  2. 2
    รู้ว่าคุณอาจ"จามเพราะแดด". ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองจามตอนออกไปเจอกับแสงแดดจ้าๆ คุณอาจมีอาการจามเหตุแสง หรือที่เรียกว่า photic sneeze reflex. มันเกิดขึ้นกับประชากรจำนวน 18-35% โดยเรียกว่า ACHOO ซึ่งย่อมาจาก Autosomal dominant Compelling Helio-Ophthalmic Outburst syndrome (ศัพท์ทางแพทย์ที่ว่าด้วยยีนเด่นเกี่ยวกับดวงตา) ทีนี้รู้มากขึ้นแล้วใช่ไหม? ว่ามันเป็นกรรมพันธุ์ และสามารถรักษาได้ด้วยสารต้านฮิสทามีนถ้าหากว่ามันทำให้คุณรู้สึกไม่สะดวกเท่าไร[2]
    • หรือจะสวมแว่นกันแดด (โดยเฉพาะเลนส์ตัดแสง) หรือผ้าพันคอก็ได้ ถ้าแสงจ้า (หรือแสงอาทิตย์) ส่องมา ให้หลบตาไปทางอื่นแล้วมองทางที่มืดกว่าหรือเป็นธรรมชาติกว่า และจะยิ่งสำคัญไปอีกถ้าหากว่าคุณกำลังขับขี่ยานพาหนะอยู่
  3. 3
    เตรียมตัวเอาไว้. ถ้าคุณอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการจามสูง (เช่น ฝุ่นพริกไทยที่ฟุ้งกระจายหรือทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยละอองเกสรดอกไม้) ให้เตรียมตัวเพื่อกลั้นจามไว้ให้ดี
    • เตรียมทิชชู่เอาไว้ในมือ ใช้จามและเป่าจมูกตัวเอง
    • ทำให้จมูกเปียก มันจะทำให้ยั้งการจามเอาไว้ได้ แม้ว่าการพ่นน้ำออกทางจมูกจะได้ผลเช่นกัน แต่คุณอาจอยากติดทิชชู่เปียกไว้เช็ดรูจมูกก็ได้ ใช้น้ำยาหยอดตา หรือดมไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากแก้วกาแฟก็ดี[3]
  4. 4
    กำจัดอาการแพ้. สำหรับผู้ที่ไม่ได้จามสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เหมือนจะจามอย่างคงที่ด้วยสาเหตุส่วนตัว อาจเป็นอะไรที่มากกว่าสภาพแวดล้อมแล้วล่ะ แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ มีอาการจามบางอย่างที่ยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้
    • ใช้ยาต้านฮิสตามีน ไม่ใช่เพียงจะทำให้หยุดจาม แต่ยังหยุดไอ น้ำมูกไหล ระคายตาได้อีกด้วย ยาเบนาดริลนั้นกินแล้วจะง่วงนอน แต่ยาอื่นๆ อย่างยาคลาริทิน จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่า[4]
    • ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย รวมทั้งบ้านและรถของคุณ ยิ่งได้สัมผัสกับสิ่งที่แพ้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ปล่อยให้สิ่งที่อยู่ข้างนอกมันอยู่ข้างนอกต่อไป[4]
    • ถ้าคุณออกไปข้างนอกนานๆ ให้กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เพราะคุณอาจไปพาพวกละอองเกสรกลับมาด้วยก็เป็นได้[4]

3
มีนิสัยการจามที่ดี

  1. 1
    รู้ว่าตอนไหนที่ไม่ควรกลั้นจาม. การจาม รู้จักกันในศัพท์ทางเทคนิคว่า Sternutation ซึ่งเป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย ปกติแล้วการจามนั้นจะเป็นการกำจัดอากาศในร่างกายออกไปด้วยความเร็วถึง 160 กม./ชม. ซึ่งความเร็วระดับมากขนาดนี้อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ถ้าหยุดอย่างผิดวิธี จึงเป็นสาเหตุที่คุณไม่ควรหยุดจามในขณะที่กำลังจามอยู่
    • ยกตัวอย่างเช่น อย่าบีบจมูกจมูกหรือปิดปากสนิทขณะที่กำลังจามอยู่ การทำอย่างนี้อาจทำให้คุณบาดเจ็บหนักได้ หากไปกันแรงและความเร็วของการจามโดยเฉลี่ยออกจากร่างกาย อาจทำให้คุณสูญเสียการได้ยิน และได้รับความเสียหายที่หลอดเลือดในศีรษะได้ โดยเฉพาะถ้าคุณพยายามจะหยุดจามในตอนที่จามออกไปแล้ว
  2. 2
    จามอย่างมีสุขอนามัย. ถ้าคุณอยู่กับผู้อื่น อาจเสี่ยงต่อการแพร่แบคทีเรียตัวร้ายเมื่อคุณจามออกไปครั้งหนึ่ง (หรือสองหรือสาม หรืออาจเป็นสี่ก็ได้) "ละออง"การจามสามารถพุ่งกระจายไปได้ไกลถึง 1.5 เมตรจากตัวคุณได้เลยนะ! รัศมีเท่านั้นก็แพร่ไปได้หลายคนอยู่ ฉะนั้นช่วยระวังด้วยล่ะ
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้จามใส่ทิชชู่แล้วทิ้งมันไปซะ ถ้าไม่มีทิชชู่ก็จามใส่แขนเสื้อแทน ถ้าคุณจามใส่มือ ก็ให้ไปล้างมือซะด้วย เพราะมือคุณต้องจับลูกบิดประตู ใบหน้า พื้นผิวต่างๆ และคนอื่นๆ อยู่แล้ว และถ้าคุณไม่มีน้ำให้ล้างมือ ก็ให้พกเจลล้างมือติดตัวไปด้วยแล้วกัน[5]
  3. 3
    จามอย่างมีมารยาท. เมื่ออยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก คุณอาจถูกมองแรงได้ถ้าจามออกไปอย่างรุนแรง มันจะเป็นการแพร่เชื้อโรคและกระจายน้ำลายไปอีก ฉะนั้นให้พยายามจามอย่างสุขุมที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • การจามใส่ข้อศอกตัวเองสามารถช่วยแก้สถานการณ์เรื่องเสียงได้ แต่ถ้าไม่มีตัวเลือก ให้หยิบทิชชู่ ก้มหัวลง และจามให้เงียบๆ
  4. 4
    จามอย่างปลอดภัย. ถ้าคุณกระดูกซี่โครงหัก การจามก็จะเจ็บมากๆ เลยล่ะ ให้หายใจออกจากปอดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะไปช่วยลดความดันบริเวณกระดูกซี่โครงและทำให้การจามอ่อนลง ความเจ็บก็จะลดลงด้วย
    • ถ้าคุณเจ็บอวัยวะภายใน คุณก็คงไม่อยากจามหรอกจริงๆ ให้รับประทานยาตามรายชื่อที่ให้ไว้ข้างบน แต่อย่าลืมที่จะหายใจออกด้วยล่ะ เมื่อมีอากาศไหลเวียนน้อยลง อวัยวะภายในก็จะไม่มีการแกว่งโยก ป้องกันไม่ให้เกิดการจามจากการมีผลระยะยาว

เคล็ดลับ

  • สร้างนิสัยพกทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าติดตัวตลอดเวลา จะได้ไม่ต้องมาหาทีหลังเมื่อเผลอจามออกมา
  • ถ้าคุณจะจาม ให้พูดว่า pumpkin (ฟักทอง) หรือ pineapple (สับปะรด) ง่ายกว่าวิธีข้างบนเยอะ
  • อาการจามเหตุแสงอาจเกิดได้หลายครั้งติดต่อกัน มักเกิดกับคน 18% ถึง 35% ของจำนวนประชากร โดยเฉพาะพวกที่เป็นคอเคเซียนหรือเชื้อชาติอื่นๆ เงื่อนไขนั้นเกิดจากยีนเด่นที่ถูกสืบทอดมาในพันธุกรรม หรืออาจเกิดจากความผิดปกติในนิวเคลียสของเส้นประสาทใบหน้าตั้งแต่กำเนิด
  • การใส่เกลือเข้าไปในจมูกก็ช่วยอยู่นะ
  • ถ้าคุณจามก็พยายามอย่าแพร่เชื้อไปให้คนอื่น แพทย์หลายคนแนะนำให้จามใส่ด้านในของข้อศอกจะดีกว่าจามใส่มือ เพราะเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคไปอีก หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรปิดปากและจมูกเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปในอากาศ คุณสามารถจามออกมาในทิชชู่ จากนั้นก็ไปล้างมือให้ไวที่สุดเพื่อเลี่ยงการแพร่โรคได้
  • ถ้าคุณรู้สึกเหมือนจะจาม ให้พกทิชชู่ติดตัวไว้ (ในกรณีที่จามมากกว่าหนึ่งครั้ง)
  • ถ้าอยู่ใกล้คนอื่น ป้องมือแล้วปิดปากเอาไว้เพื่อไม่แพร่เชื้อโรคออกไป แล้วหยิกจมูกตัวเอง
  • ถ้าคุณกำลังจะจาม อย่าใช้มือหรือทิชชู่ แต่ให้จามใส่ข้อศอก เพื่อที่เชื้อโรคจะได้แพร่ออกไปน้อยกว่าเดิม
  • อีกวิธีที่จะช่วยยั้งไม่ให้จาม คือกัดริมฝีปากล่างด้านใน (ไม่ต้องกัดแรง)

คำเตือน

  • การพยายามหยุดจามหรือกลั้นจามเอาไว้ตอนที่จามออกไปแล้ว อาจทำให้คุณเกิดภาวะมีอากาศในเนื้อเยื่อเมดิแอสตินัมได้ ซึ่งอันตรายมาก
  • การยับยั้งการจามจะทำให้เกิดอันตรายกับสุขภาพคุณได้ ให้ศึกษาจากแหล่งที่มาด้านล่างเพื่อดูว่ามีกรณีบาดเจ็บขั้นรุนแรงแบบไหนอีกที่เกิดขึ้นเพราะการกลั้นจาม
  • การกลั้นจามสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บ อย่างเช่น เกิดแผลที่กะบังลม ทำให้หลอดเลือดแตก และในกรณีที่ร้ายแรงมาก มันอาจทำให้หลอดเลือดในสมองอ่อนแอลงและเป็นสาเหตุของอาการหลอดเลือดแตกเนื่องจากความดันโลหิตสูงได้เลย

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการ

เล็มขนบริเวณจุดซ่อนเร้น

วิธีการ

โกนขนบริเวณบิกินีทั้งหมด

วิธีการ

ใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผมและผิวง่ายๆ

วิธีการ

ทำให้หน้าใสเนียนเรียบ ไร้สิวกวนใจ

วิธีการ

ทำให้ฟันขาวด้วยเบกกิ้งโซดา

วิธีการ

หารูปทรงใบหน้า

วิธีการ

ทำให้สีผมอ่อนลงด้วยวิธีธรรมชาติ

วิธีการ

ทำให้หนวดยาวเร็วขึ้น

วิธีการ

เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ

วิธีการ

ดูแลฟันภายหลังอุดฟัน